ไคยาไนท์ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ “หินปลดหนี้” บัญญัติโดย อ.จุฑามาศ ณ สงขลา โดยเชื่อว่า หินไคยาไนท์ช่วยเสริมดวงชะตาของผู้สวมใส่ให้กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ไม่ย่อท้อ ไม่โลเล เสริมอำนาจ ส่งเสริมให้เอาชนะสิ่งต่างๆได้อย่างเด็ดขาด หรือเรียกได้ว่า ชัยชนะอย่างถาวร จึงเป็นหินที่เหมาะแก่การวางรากฐานครอบครัว และยังคงเป็นที่รู้จักในชื่อ “หินแห่งผู้นำ” เนื่องจากไคยาไนท์มีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มพูนสติและปัญญา ทำให้มองการณ์ไกล บ้างก็เป็นที่รู้จักในชื่อ “หินพูดแล้วได้เงิน” หรือ“หินแห่งโลก”

สรรพคุณของหินไคยาไนท์

          ทางด้านร่างกาย ไคยาไนท์ ช่วยบำบัดโรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาทและกระดูก เป็นหินที่มีพลังความสงบสูง หากมีปัญหาด้านการนอนหลับควรเก็บไคยาไนท์ไว้ในห้องนอนเพื่อช่วยให้นอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น

          ทางด้านจิตใจ ไคยาไนท์ เป็นหินที่มีพลังงานสั่นสะเทือนด้านบวกสูงมากและไม่กักเก็บพลังงานด้านลบ สามารถชำระล้างตนเอง หินก้อนอื่นที่มาสัมผัส และขจัดหยากไย่พลังงานงานสกปรกตกค้างจากออร่าของผู้สวมใส่ให้หมดไปได้ แรงสั่นสะเทือนของไคยาไนท์ช่วยปกป้องผู้สวมใส่จากพลังงานที่ไม่ดี หรือผู้ไม่ประสงค์ดีได้

          ไคยาไนท์ เป็นหินที่เหมาะกับการทำสมาธิ จะดีที่สุดหากท่านวางไคยาไนท์ไว้ในทางทิศเหนือขณะทำสมาธิ ช่วยให้ไอเดียไหลลื่น ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

          ไคยาไนท์ เป็นหินที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่โกรธง่าย หงุดหงิด สับสน เครียด วิตกกังวล ไคยาไนท์ ช่วยในการสู้กับความรู้สึกสับสนภายในจิตใจ สร้างสมดุลอารมณ์ เชื่อมโยงตัวผู้สวมใส่เข้ากับทุกสรรพสิ่ง เพิ่มพลังในการสื่อสาร ความเห็นอกเห็นใจ ความรู้สึกปรองดอง ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวและเหล่ามิตรสหาย ส่งเสริมให้ผู้สวมใส่ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเป็นธรรม บันดาลให้ผู้อื่นภักดี เสริมสร้างความเป็นผู้นำ ทำให้ผู้สวมใส่สามารถผ่านข้อพิพาท การเจรจาต่อรอง หรือการประชุมสำคัญได้อย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี อันเนื่องมาจากไคยาไนท์เสริมพลังด้านการสื่อสารในทุกระดับ และยังทำให้ท่านสามารถปกครองผู้คนหมู่มากได้อย่างอยู่หมัด

          นอกจากนี้ไคยาไนท์ยังเป็นหินเสริมดวงชะตากล้าแกร่ง ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาระหนักในชีวิต เป็นหนี้สิน มีหน้าที่ภาระความรับผิดชอบสูง พลังของไคยาไนท์จะช่วยส่งเสริมให้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เด็ดเดี่ยว ไม่โลเล พร้อมฝ่าฟันอุปสรรค ให้ขยันทำมาหากิน จนสามารถปลดหนี้ได้สำเร็จ ส่งเสริมผู้สวมใส่เกิดความมั่นใจในตนเอง กล้าคิดกล้าทำ ไม่กลัวเกรง อดทนและเข้มแข็ง ดึงความสามารถภายในตัวท่านออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนที่พบเห็น เสริมสร้างสมาธิ สติปัญญา และมองการณ์ไกล

ไคยาไนท์เหมาะสำหรับใคร

          เหมาะสำหรับเด็กที่มีความแตกต่างทางด้านร่างกาย มีปัญหาในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น เชื่อว่าหินจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ก่อให้เกิดความรู้สึกร่วมกันและเข้าใจกันมากขึ้น และเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา เชื่อว่ามีประสิทธิภาพสูงในการช่วยเพิ่มสติปัญญาแก่ผู้สวมใส่

          เหมาะสำหรับอาชีพ ผู้บริหาร นักวางแผน นักสื่อสาร ผู้นำองค์กร นักพูดเพื่อโน้มน้าว เจ้าของธุรกิจที่มีความรับผิดชอบสูง และคนที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกน้อง หินนี้จะแสดงพลังความสามารถที่เรามีออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้พบเห็น นอกจากนี้ยังเหมาะสมกับผู้ที่ทำอาชีพเกี่ยวกับอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ปศุสัตว์ อาชีพค้าอสังหาริมทรัพย์และนักค้าของโบราณอีกด้วย

          ไคยาไนท์สีส้มเหมาะสำหรับอาชีพ ศิลปิน นักดนตรี หรือ ผู้ที่ต้องสร้างสรรค์ผลงาน เช่น Content Creator

เหมาะสำหรับ ผู้ที่เกิดวันเสาร์มากที่สุด ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์พระเวท ไคยาไนท์สีน้ำเงินเข้มเป็นอัญมณีแท้ของดาวเสาร์ เสริมอำนาจ ความแข็งแกร่ง การมีชัยชนะอย่างเด็ดขาดและยาวนาน มั่งคั่งร่ำรวย และยังเหมาะสำหรับ วันจันทร์ เสริมความเมตตา มหาเสน่ห์ ให้เป็นที่รักใคร่แก่ผู้พบเห็น วันอังคารและวันศุกร์ เสริมให้การงานก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ วันพุธกลางวัน เสริมความมั่งคั่งร่ำรวย วันพุธกลางคืน เสริมด้านสุขภาพ และผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี เสริมอำนาจ บารมี สง่าราศี

เหมาะสำหรับราศี มังกร และ กุมภ์

คุณสมบัติทางกายภาพ

สูตรเคมี Al2SiO5

องค์ประกอบหลัก อลูมิเนียมซิลิเกต(Aluminum silicate)

สี สีน้ำเงินอ่อน, สีน้ำเงินเข้ม, บางครั้งมีหลายสีโดยอยู่ระหว่างสีน้ำเงินและสีขาว พบแบบไม่มีสีเป็นส่วนน้อย นอกจากนี้ ยังพบสีเทา, สีเขียว, สีเหลือง, สีส้มและสีดำ

สีผงรอยแตก ไม่มีสี

ค่าความแข็งของโมร์ มีลักษณะของค่าความแข็ง 2 แนวที่ไม่เท่ากัน โดยจะมีค่าความแข็ง 4.5 ในแนวยาว และ 7 ในแนวหน้าตัด

โครงสร้างผลึก ไตรคลินิก(Triclinic) มีลักษณะยาว แบนเป็นแผ่นหรือชั้นหนา ๆ หรือเป็นแผ่นแบน ๆ คล้ายใบมีด

ความโปร่งแสง โปร่งใสถึงโปร่งแสง

ค่าความถ่วงจำเพาะ 3.55-3.66

ชนิดกลุ่ม แร่ซิลิเกตในกลุ่มเนโลซิลิเกต(Nerosiligate)

ลักษณะเด่นและวิธีตรวจ ดูจากลักษณะของผลึกที่เป็นแผ่นแบนคล้ายใบมีด รอยแยกแนวเรียบ สีน้ำเงิน หรือน้ำเงินอ่อน ๆ และความแข็ง

          ชื่อของไคยาไนท์ มาจากรากศัพท์ภาษากรีกโบราณ ที่แปลว่าสีน้ำเงิน(Cyan) คำว่า (κύανος) ซึ่งจะกลายเป็นภาษาอังกฤษว่า kyanos หรือ kuanos และหมายถึง "สีน้ำเงินเข้ม" โดยในช่วงปีคริสต์ศักราช 1740 – 1817 หินไคยาไนท์ถูกจำแนกว่าเป็นพลอยไพลินโดยนักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส นาม โฮเรส-เบเนดิค เดอ โซซู (Horace-Bénédict de Saussure) และนักเหมืองแร่วิทยาชาวเยอรมัน นาม อับราฮัม อ็อตลอป เวอร์เนอร์ (Abraham Gottlob Warner) ได้ระบุลักษณะของคริสตัลที่มีแร่ธาตุสีน้ำเงินเข้มหรือสีฟ้าเข้มที่เรียงตัวเป็นผลึกแบบแผ่นยาว ที่รู้จักกันในนาม “แร่ทัสก์สีฟ้า (Blue Talc)” ว่า ไคยาไนท์

          ไคยาไนท์ เป็นแร่อลูมินาซิลิเกตสีน้ำเงินโดยทั่วไปซึ่งมักพบในหินแกรนิตชนิดเพ็กมาไทด์(pegmatites) ที่มีปริมาณของธาตุอลูมิเนียมสูง โดยการเกิดของไคยาไนท์จะเกิดในสภาวะที่มีความดันสูง (สูงกว่า 4 กิโลบาร์) และหินแปรพวกหินชีสต์(schists) และหินไนต์(gneisses) ไคยาไนท์ เป็นที่รู้จักกันในชื่ออื่นๆ เช่น ไดสเทรน(disthene), จาร์ติไซต์(rhaeticite) และ ไซยาไนท์(cyanite)

          ส่วนใหญ่ไคยาไนต์ จะถูกใช้ในอุตสาหกรรมกันความร้อน และผลิตภัณฑ์เซรามิค เช่น ส่วนกันความร้อนของหัวเทียน จาน วัสดุกันไฟ พอร์ซเซเลน ลักษณะเฉพาะตัวของไคยาไนต์ คือ มีค่าความแข็ง 2 ในที่ไม่เท่ากัน โดยจะมีค่าความแข็งประมาณ 4.5 ตามแนวยาว และ7 ตามแนวขวางของผลึก(จึงเป็นที่มาของชื่อ "ไดสเทรน(disthene)" ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า distrength ที่แปลว่า ความแข็งสองแบบ) ซึ่งใช้ในการแบ่งแยกตัวไคยาไนท์กับหินชนิดอื่นๆ ที่มีคนเข้าใจผิดว่าเป็นไคยาไนท์ เช่น อควอมารีน ไพลิน ซึ่งในบางชิ้นของไคยาไนท์ ยังมีคุณสมบัติติดแม่เหล็กเหมือนกับทัวร์มารีนอีกด้วย

          แม้ว่าตัวไคยาไนท์เป็นหินจะมีสีสันที่น่าหลงไหล แต่กลับไม่ค่อยถูกใช้เป็นอัญมณี เนื่องจากมันมีความเปราะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอัญมณีชนิดอื่น จากที่ตัวของมันมีลักษณะของผลึกเป็นเส้น และแผ่นที่ซ้อนทับกัน ทำให้มีแนวโน้มที่จะแตกแยกกันได้ง่ายตามแนวยาวของผลึก คุณสมบัติแบบนี้ทำให้ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เมื่อทำการตัดและเจียระไน ไคยาไนท์มีความโปร่งใส ถึงโปร่งแสง

          ในทางธรณีวิทยา ไคยาไนท์เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญถึงบริเวณที่มีแรงดันสูง ซึ่งเป็นผลจากการซ้อนทับระหว่างแผ่นพื้นที่ซ้อนทับกันและบริเวณที่เป็นรอยเลื่อนหลักของเปลือกโลก เช่น เทือกเขาแอลป์ เป็นต้น

          ไคยาไนท์สีน้ำเงิน เป็นแร่ซิลิเกต มักพบในควอตซ์และเป็นหนึ่งในหลายสีของไคยาไนท์ มีตั้งแต่สีน้ำเงินเทาอ่อนไปจนถึงสีน้ำเงินเข้มที่มีแถบสีขาวหรือสีเทาพาดผ่าน ถือว่าเป็นสีที่สวยที่สุดและเป็นที่ต้องการอย่างมาก ไคยาไนท์มีลักษณะโปร่งแสงและนอกจากมาในเฉดสีฟ้าแล้ว ยังมีสีเขียว สีเทา สีขาว สีเหลือง และสีส้ม ซึ่งเป็นสีที่เพิ่งค้นพบในแทนซาเนียเมื่อไม่นานมานี้

แหล่งที่มีการพบไคยาไนท์

สีน้ำเงิน

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ,บราซิล ,เนปาล ,รัสเซีย ,เคนยา ,ประเทศสหรัฐอเมริกา ,ประเทศอิตาลี ,ออสเตรีย ,อินเดีย

สีเขียว

ประเทศบราซิล

สีดำน้ำเงิน

ประเทศบราซิล

สีเทา

ประเทศบราซิล

สีส้ม

ประเทศแทนซาเนีย

ใส ไม่มีสี(หายากที่สุด)

ประเทศเคนยา

(มีสีอื่นๆอีก เช่น สีเหลือง สีชมพู แต่เจ้าของร้าน ไม่ทราบที่มาของแหล่ง โดยสีขาวจะเกิดร่วมกับสีต่างๆข้างต้น)

การเกิดของไคยาไนท์

พบในหินแปรจำพวกไนส์และชีสท์ มักจะเกิดร่วมกับแร่กาเหนต สตอโรไลท์ (Staurolite) และคอรันดัม